คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อันตรายใกล้ตัว

ยุคนี้เลี่ยงไม่ได้จริงๆ เลยค่ะที่ชีวิตเกือบ 24 ชั่วโมงของเราจะต้องข้องแวะกับอุปกรณ์ไฟฟ้า และก็คงไม่ต้องกังวลอะไรหรอกค่ะ ถ้าเจ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ได้มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโผล่ออกมา เป็นของแถมทุกครั้งที่เราใช้งาน และด้วยเหตุผลนี้เอง เราถึงต้องรู้เท่าทันเจ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะได้หลีกเลี่ยงและป้องกันตัวเองได้ถูกต้องไงล่ะค่ะ

ฮัลโหล ฮัลโหล

ติดอันดับต้นๆ ของความเสี่ยงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเลยค่ะ คิดดูละกันขนาดในปั๊มน้ำมันสนามบินหรือห้องไอซียังต้องปิด นับประสาอะไรกับสมองอันแสนบอบบาง ยิ่งเด็กกะโหลกยังบางอยู่ ให้ใช้มือถือวันละ 1-2 ชั่วโมงแย่แน่ค่ะ เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะไปทำลายสารพันธุกรรมในเม็ดเลือดเสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกในสมองชนิดหนึ่ง

มีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารออคคูเพชั่นนอลแอนด์เอ็นไวรอนเมนทอล โดยนามเลนนาร์ท ฮาร์เดล พบว่าคนในชนบทที่ใช้โทรศัพท์มือถือ มีโอกาสเสี่ยงเป็นเนื้องอกในสมองมากกว่าคนในเมือง เพราะว่าการใช้โทรศัพท์ในพื้นที่ห่างไกลทำให้โทรศัพท์ต้องปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในขนาดที่มากกว่าเดิมและยังตั้งเสาสัญญาณในบริเวณใกล้กันอีกด้วย
ฮัลโหลอย่างรู้ทัน ใช้สมอลทอล์กจนติดเป็นนิสัยถึงจะคุยครู่เดียวก็ตาม อย่าให้เด็กเล็กใช้โทรศัพท์มือถือโดยเด็ดขาดหากไม่จำเป็น เก็บมือถือไว้ในกระเป๋าดีกว่าเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถืออาจจะทำลายอวัยวะภายในได้ค่ะ

เจ้าสมองกลคอมพิวเตอร์

มีงานวิจัยจากต่างประเทศหลายชิ้นออกมาบอกว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถทำอันตรายต่อมนุษย์ได้ เช่น คลื่นรังสีจากคอมพิวเตอร์ และมอนิเตอร์ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยหรือเสี่ยงที่เด็กในครรภ์จะผิดปกติ แท้ง หรือบางรายอาจจะคลอดก่อนกำหนด ซ้ำยังกระตุ้นให้เซลล์ที่ควบคุมแคลเซียมทำงานเร็วขึ้น เป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้ง่ายอีกด้วย

แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็ยังไม่มีผลการรับรองว่าเป็นจริง ซึ่งเมื่อปี 1998 องค์การอนามัยโลกก็ออกมาสรุปเรื่องนี้ว่า ไม่พบปัญหาเรื่องสายตาและต้อกระจกเกิดขึ้นกับคนที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ แต่อาจจะพบอาการปวดศีรษะ และสายตาล้าจากการมองจอที่มีแสงจ้าเป็นเวลานาน ส่วนประเด็นเรื่องความผิดปกติของเด็กในครรภ์ รายงานการศึกษาวิจัยระบาดทางระบาดวิทยาก็ไม่พบว่ามีรังสีจากจอคอมพิวเตอร์มีผลต่อการตั้งครรภ์ ซึ่งความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเด็กในครรภ์นั้นน่าจะเกิดจากความเครียด ท่านั่งและการนั่งเป็นเวลานานๆ ค่ะ
รับมือเจ้าสมองกล วางจอคอมพิวเตอร์ให้ห่างจากสายตา 50-70 ซม. และตำแหน่งกลางจอควรอยู่ต่ำกว่าระดับสายตา 20 องศา ส่วนเมาส์หรือคีย์บอร์ดไม่ควรแข็งเกินไป เพราะส่งผลให้เกิดเอ็นข้อมืออักเสบได้ หมั่นพักสายตาและใช้ที่กรองแสงเพื่อลดคลื่นแม่เหล็กและรังสี ส่วนโน้ตบุ๊กอย่าวางไว้บนตักนานๆ โดยเฉพาะคุณผู้ชายค่ะ เพราะความร้อนจะทำให้อสุจิของคุณลดลง วางไว้บนโต๊ะหรือหาเบาะมารองจะดีกว่าค่ะ ไม่ควรให้เด็กอยู่กับคอมพิวเตอร์นาน เพราะนอกปัญหาจากสายตาอาจจะมีปัญหาเด็กติดเกม และพฤติกรรมก้าวร้าวตามมาค่ะ

ไมโครเวฟ

คลื่นไมโครเวฟเป็นคลื่นแบบเดียวกับโทรศัพท์มือถือค่ะ คือคลื่นความร้อนทำลายเซลล์ ซึ่งคลื่นชนิดนี้มีฤทธิ์ทำลายเซลล์ ทำให้ความยาวคลื่นสมองสั้นลง สมองเสื่อม แต่ถึงแม้คลื่นที่ใช้ในเครื่องไมโครเวฟจะไม่เป็นอันตราย เพราะมีชนวนหุ้มอยู่ ก็ไม่ควรชะล่าใจใช้ไมโครเวฟประกอบอาหารไปทุกอย่างเพราะจะทำให้เสียวิตามินและแร่ธาตุ ที่อยู่ในอาหารได้เนื่องจากความร้อนในไมโครเวฟมีปริมาณสูง เช่น นึ่งผักก็ไม่ควรนึ่งกับไมโครเวฟ หรือต้มนมให้เดือดก็ไม่ควรเพราะคลื่นไมโครเวฟจะทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์จนหมด

ใช้เวฟอย่างปลอดภัย
- ปฏิบัติตามคู่มือการใช้ไมโครเวฟอย่างเคร่งครัด
- ภาชนะที่จะใช้ต้องเป็นสำหรับใช้ในไมโครเวฟเท่านั้น จานที่เคลือบทองหรือฟอยล์ห้ามเด็ดขาด เพราะเป็นชนวนอาจทำให้เครื่องช็อต และเกิดไฟไหม้ได้ค่ะ
- ไม่ควรใส่ไข่ทั้งลูกในไมโครเวฟ เพราะความร้อนจะทำให้เกิดแรงดัน ทำให้ไข่ระเบิดเกิดอันตรายได้แบบไม่คาดคิดเลยล่ะแค่ปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานแต่ละเครื่องอย่างเคร่งครัด เท่านี้คุณๆ ก็ปลอดภัยจากคลื่นรังสีที่เวียนวนอยู่รอบตัวแล้วค่ะ
ที่มา..นิตยสารดวงใจพ่อแม่