ภัยหมอดู/ทำเสน่ห์ (ฟันธง-ฟันเธอ)

ดูหมอทำเสน่ห์ ทรงเจ้าเข้าผี สะเดาะเคราะห์แก้กรรม สิ่งลี้ลับซับซ้อนที่ยังคงค้นหาคำตอบไม่ได้ของ “ไสยศาสตร์” ยังคงเป็นความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งของชาวบ้าน จนมีนิยามว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” บางคนหลงงมงายอย่างสุดตัว สุดท้ายต้องตกเป็น “เหยื่อ” คนชั่วที่นำเอาเรื่อง “ไสยศาสตร์” มาเป็นเครื่องมือหากินกับผู้หญิง “ต้มตุ๋น” เสียตัวเสียตังค์ โดยเฉพาะคุณ สาวๆ เมื่อประสบปัญหาเกี่ยวกับความรัก การเงิน การงาน หรือการเรียน หลายคนหาทางออกด้วยการพึ่งพาบริการเหล่านี้ จนต้องเสียเงิน เสียทอง หรือบางคนต้องเสียตัวให้แก่เจ้าพ่อหมอดูทั้งหลาย กลายเป็นตราบาปติดตัวติดใจไปชั่วชีวิต

ตัวอย่างแรก เริ่มจากนักศึกษาสาวไปเที่ยวงานแสดงสินค้า ย่านสนามกีฬาหัวหมากคนหนึ่ง เดินผ่านซุ้มหมอดู ผู้หญิงเรียกค่าดู 199 บาท แล้วก็ทักแต่เรื่องไม่ดี
บอกว่าต้องสะเดาะเคราะห์เป็นเงิน 3 พันบาท หมอดูทักเธอว่าจะตายในปีนี้ จะประสบอุบัติเหตุร้ายแรงยิ่งทำให้เธอกลัวมาก แต่เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น หมอดูเลยเอาเงิน 1,500 บาท รวมกับสร้อยข้อมือหนัก 2 สลึงเป็นค่าสะเดาะเคราะห์ ด้วยความกลัวตายจากคำทำนายของหมอดู รวมกับอาการเหมือนคนเบลอๆ ทำให้เธอต้องเสียเงินเสียทองให้หมอดูคนนั้นไปโชคดีที่หมอดูรายนี้เป็นผู้หญิงเลยหลอกเอาไปแต่ทรัพย์สิน และที่หมอดูรายนี้หลอกได้สำเร็จเพราะว่าจับจุดถูก ไม่ว่าใครก็กลัวตายทั้งนั้น พอเสนอหนทางซี้อชีวิตคืนได้คนที่ไม่มีวิจารณญาณก็มักจะไม่รีรอรับข้อเสนอในทันที จริงๆ แล้วมีอย่างที่ไหนเอาเงินไปต่อชีวิต เงินซื้อชีวิตได้เหรอ หากเป็นจริงโลกนี้ก็คงไม่มีใครตายแล้ว

อีกราย มีพระกับสีกาอยู่ในกลดริมแม่น้ำเพียงลำพังสองต่อสอง ชาวบ้านเกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีไม่งาม จึงแจ้งให้ตำรวจไปช่วยตรวจสอบ
ขณะตำรวจไปตรวจสอบพบหญิงสาวอายุ 27 ปี กำลังมุดออกมาจากกลดพอดี เมื่อเห็นหน้าตำรวจ น.ส. เอ ก็ชี้เข้าไปในกลด ให้จับกุมหลวงพี่วัย 44 ปี ที่อยู่ข้างใน พร้อมกล่าวหาว่า ข่มขืนเธอ! น.ส. เอให้การว่า เธอกับเพื่อนๆนำอาหารไปถวายหลวงพี่ที่ธุดงค์มาปักกลดอยู่ตรงที่เกิดเหตุ หลวงพี่ ทายทักว่าเธอกำลังมีเคราะห์ ต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์ตามลำพัง มุกเดิมๆ หลังจากเพื่อนๆของเธอกลับไปหมดแล้ว ก็บอกให้ถอดกางเกงแล้วหลับตาลง ก่อนจะใช้มือลูบคลำที่บริเวณอวัยวะเพศ น.ส.เอ เห็นท่าไม่ดี จึงพยายามขัดขืน กลับถูกหลวงพี่ขู่ไม่ให้ส่งเสียงร้อง

สุดท้ายชายที่ห่มผ้าสีเหลืองก็ลงมือขืนใจเธอ พร้อมกำชับว่าห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะตามฆ่าซะให้ตาย หลังจากถูกจับกุมฝ่ายหลวงพี่อ้างว่าบวชพระมานานกว่า 20 พรรษา เมื่อเห็น น.ส. เอเปลือยเปล่า จึงเกิดอารมณ์เพศ ลงมือขืนใจเหยื่อจนสำเร็จความใคร่ งานนี้ไม่รู้ว่าควรจะเห็นใจพระที่ตบะแตกหรือเห็นใจน้องเอเธอดีที่โดนข่มขืน เพราะจะว่าไปแล้วเธอก็รนหาที่เองชัดๆ หลวงพี่ให้ทำอะไรก็ว่าง่ายยอมทำตามหมดโดยไม่พิจารณาเลยว่าสิ่งที่ทำเป็นกิจของสงฆ์หรือไม่ ไหนบอกว่าไม่เอา ไม่เอาให้ไปบวช แล้วทำไมนี่ พระจ้องจะเอาล่ะ!! ระวัง!!
มีองค์..จริงหรือ?
ร่างทรง เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือความเชื่อที่คนให้ความเคารพบูชาแต่ที่จริงแล้ว ร่างทรงมีทั้งในแบบ “คนทรงเจ้า” และ “เจ้าเข้าทรง” ดูภายนอกคล้ายคลึงกันมาก แต่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“คนทรงเจ้า” ไม่มีเจ้าหรือองค์ใดๆมาประทับ แต่คนที่อ้างว่าเป็นร่างทรง อาจใช้กลอุบายเรื่องวิชาอาคม ทำเสน่ห์ เล่นไสย หรือ เดา ดวงเป็นผู้คนจึงลุ่มหลงให้ความเชื่อถือศรัทธา ในขณะที่ถูกหลอกกอบโกยเงินเข้ากระเป๋า เพราะคนเหล่านั้นมักนำชื่อเทพต่างๆมาใช้ประโยชน์ให้คนหลงเชื่อ
“เจ้าเข้าทรง” ในความเชื่อของคนที่เชื่อคนง่ายทั่วไปย่อมเชื่อว่ามีองค์เทพลงประทับทรงเพื่อสร้างบารมีจริงๆโดยที่ร่างทรงจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ซึ่งในลักษณะนี้ องค์เทพจะมุ่งช่วยบำบัดทุกข์ ไม่กิน ไม่ขอ มีแต่ช่วยเหลือคนทั่วไป ไม่ใช่ห่วงแต่ทรัพย์ในกระเป๋าของผู้อื่น

จับพิรุธร่างทรง...

1 ง่ายๆจุดธูปกำหนึ่งให้ไฟร้อนๆ แล้วนำไปจี้ที่ร่างทรง ถ้าร้องโอ้ย ของปลอม ชัวร์ และที่แน่ๆ ร้องทุกคน ไม่เชื่อลองดู
2. ถ้าเรียกเงิน เรียกทอง ทรัพย์สินมีค่าระหว่างทรง ให้จำไว้ว่าเทพจริงเขาไม่ใช่เงินทองกันหรอก
3. แกล้งทำเป็นหัวหมุน ตัวสั่น อาเจียน คลื่นไส้ เสมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในตัวร่างทรง
4. พยายามขู่ หรือไล่คนที่มีทีท่าว่าไม่เชื่อให้ออกจากพิธีไป เพื่อป้องกันการเปิดโปง และเก็บเหยื่อที่เชื่อไว้ใกล้ๆตัว
5. เอะอะก็เรียกสะเดาะเคราะห์ ดูกี่ทีดวงไม่เคยดีสักครั้ง และไม่เคยมีคำแนะนำที่สร้างสรรค์เลย
6. พูดคำ ด่าคำ เทพจริงเขาไม่ทำตัวต่ำขนาดนั้นหรอก

หมอดูอันตรายบ้าง “ฟันธง” –บ้าง “ฟันเธอ”

นายก้อง หมอดูใต้ต้นมะขามใช้อุบายล่อลวง น.ส. อ้อน วัย 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ไปข่มขืนที่บ้านแถวลาดยาว เขตจตุจักร เด็กสาววัยละอ่อนรายนี้อ้างว่า เพิ่งรู้จักนายก้องได้แค่ 2 วันนายก้อง ทายทักเธอว่ากำลังมีเคราะห์ (..อีกแล้ว) ครับท่าน ก่อนจะนัดให้เธอโดดเรียนไปหาเพื่อทำการเพิ่มเคราะห์
สุดท้ายก็เสียท่าตกเป็นเหยื่อกาม สงสัยอยู่เหมือนกันทำไมน้องอ้อนถึงใจอ่อน ยอมไปกับมันทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแค่ 2 วันเท่านั้น อย่างน้อยถ้าเธอได้ปรึกษาพ่อแม่สักนิดจิตคงไม่อ่อนเท่านี้
ทำเสน่ห์ อาจเพิ่มเสนียด
เมียรักที่เคยอยู่กิน นำข้อมูลไปแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ ว่าเณรแอยังรับทำเสน่ห์และฉวยโอกาสล่วงเกินทางเพศกับหญิงสาวที่ไปทำพิธีแถมยังตั้งกล้องแอบถ่ายไว้อีกด้วย
เณรแอถูกจับ ขณะอยู่ในห้องกับสาวบาร์ญี่ปุ่น อายุ 19 ปี ที่อ้างว่าไปหาเณรแอให้ทำพิธีใส่เสน่ห์ เพื่อให้สามีและลูกค้าติดใจ โดยเธอต้องยอมหลับนอนกับจอมขมังเวทย์ผู้นี้ 2 คืน เพื่อแลกกับค่าใช้จ่าย
ฝ่ายเณรแอก็ยอมรับอย่างหน้าชื่นว่าจำเป็นต้องนอนกับหญิงสาวเพราะว่าเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม ผัวคนเดียวยังเอาไว้ไม่ได้แล้วใครจะมาช่วยได้ คิดได้ไงว่านอนกับไอ้โล้นลวงโลกแค 2 คืนผัวจะรักลูกค้าจะหลง ถ้าทำได้จริงก็คงไม่มีผู้หญิงถูกทิ้งเยอะเป็นกระดาษทิชชู่แบบนี้หรอก เมียมันยังทิ้งเลยไอ้แอน่ะ
อย่างกรณีของไอ้แอก็ใช้ความเชื่อความศรัทธามาหลอกเจาะไข่แดงสาวน้อยและไข่เค็มของสาวใหญ่
การทำเสน่ห์เป็นศาสตร์ด้านมืดที่มีค่าใช้จ่ายสูงและไม่สามารถรับรองผลได้ แต่ผู้รู้ทั้งหลายฟันธง แหกตาชัวร์
รับมือเจ้าพ่อสะเดาะเคราะห์, แก้กรรม,จงระวังจะเพิ่มเคราะห์กรรม
- อย่าพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงกับผู้ร่วมขบวนการทั้งหลาย
- เบื้องต้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ากรรมไม่ใช้เชือกผูกรองเท้า มันแก้ไม่ได้ อย่าหลงเชื่อ ตอนนี้มีหมอดูเกิดใหม่ “ฟาดเปรี้ยง”แก้กรรมจงระวัง มันจะฟาดเกลี้ยงนะจ๊ะ
- ถ้าถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ ต้องมีสติ คิดหาช่องทางหลบหนีให้เร็วที่สุด
- อย่ารับอาหารเครื่องดื่มที่คนทรงเจ้าหยิบยื่นให้ไปรับประทานเพราะอาจมีสิ่งผิดปกติ เช่น ยานอนหลับหรืออื่นๆ
- เมื่อเริ่มถูกลวนลามต้องแสดงท่าทางออกมาทันทีว่า “ไม่ยอม” ไม่ใช่ “ยอมแล้ว” ขณะเดียวกันก็ต้องส่งเสียงร้องห้ามอย่างจริงจังด้วย
- ถ้ามันยังไม่หยุดลงมือ ให้รู้จักใช้สิ่งของใกล้มือเป็นอาวุธช่วยเหลือเพื่อเอาตัวรอด
ยกตัวอย่าง ถ้ามันผลุนผลันเข้าใส่ ใช้สิ่งของใกล้มือ เช่น หวี กุญแจ ปากกา ดินสอ ข่วนหน้า หรือจิ้มเข้าที่พุง จะช่วยลดความหื่นกระหายของมันลงได้บ้าง
ถ้าเข้าไปในระยะที่ใช้เท้าได้ ให้รีบถีบไปยังจุดอ่อน อาทิ เป้ากางเกง ท้องน้อย ลิ้นปี่ ชายโครงหรือใบหน้า แค่นี้ก็สะอึกแล้ว
หรือถ้าเข้ามาประชิดติดตัว อนุญาตให้ถอดรองเท้าออกมาตบได้
ให้ส่วนที่เป็นสั้นเท้ากระแทกไปยังจุดอ่อนของคนร้าย อย่างบริเวณใบหน้า ลูกกระเดือก ลิ้นปี่ หรือขมับจากนั้นก็ให้วิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
หากมีสเปรย์พริกไทยสักกระป๋องรับรองทุ่นแรงไปได้เยอะ
ควรเรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัว ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงปลอดภัย เช่น มวยไทย เทควันโด คาราเต้

ภัยหมอดู ทำเสน่ห์

กระบวนการปฏิบัติมีดังต่อไปนี้: พูดจาหว่าล้อม ทำนายทายทักดวงชะตาของ เหยื่อ ในแง่ลบ ขอดูลายมือเพื่อพยายามแตะเนื้อต้องตัว หรือใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น ยาชา ยาสลบ หลังจากนั้นคงไม่ต้องอธิบาย คุณก็ลองหลับตานึกเอาเองว่าจะเกิดอะไรขึ้น
กลุ่มเหยื่อเป้าหมาย ผู้หญิงที่มีโหงวเฮ้งไม่ค่อยฉลาดประเภทมีหัวไว้กั้นหู หรือมีหัวไว้หนุนหมอนอย่างเดียว คิดอย่างอื่นไม่ค่อยเป็น จิตอ่อน งมงายเกินเหตุ งก อยากรวยทางลัด ระแวงกลัว “ผัวนอกใจ”
วิธีรับมือ: ทำตัวให้ฉลาดขึ้น อย่าใส่เครื่องประดับเกินความจำเป็น “ดูดวงได้แต่ต้องดูอย่างมีสติ สตางค์จะไม่หมดตัวแล้วไม่เสียตัวด้วย”
จงเร่งขจัดความงมงายของคุณออกไปเสียให้หมด ก่อนที่มันจะกัดกร่อนทำลายชีวิตคุณ และคนที่คุณรัก
อยากเสนอให้ออกกฎหมายลงโทษผู้กระทำผิดทางเพศหรือผู้ก่อการร้ายทางเพศ “เป้ากางเกง” ถ้าเห็นด้วย เอ้า!!! ช่วยเชียร์กัน 01-197-9009

ที่มา : หนังสือภัยผู้หญิง