ภัยยาม/รปภ.

บุคคลที่คิดว่าน่าไว้ใจที่สุด อาจจะเป็นบุคคลที่อันตรายที่สุดก็ได้ “ยาม” คือผู้คอยรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินยาม หรือ รปภ. มีอยู่ทั่วไปแทบจะทุกหนทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหมู่บ้าน หรือสถานศึกษา ห้าง คอนโด ที่จอดรถ บุคคลเหล่านี้ คือผู้ที่สามารถเข้านอกออกในได้สะดวก ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสที่ทำให้คนชั่วที่แฝงตัวเป็น รปภ. ปฏิบัติการเลวร้ายได้ง่าย

อร.. นักศึกษาสาว ออกจากบ้านย่านมีนบุรี ตั้งแต่ฟ้าสางจะไปขึ้นรถเมล์ที่ถนนใหญ่ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อไปเรียนหนังสือในเมือง วันนี้ อรไปคนเดียว ปกติก็ไม่เคยไปคนเดียว พ่อแม่จะเป็นห่วง และแล้วเหตุร้ายที่พ่อแม่กลัวก็เกิดขึ้นจนได้ อร ไปแล้วไปลับ กลับมาเพียงร่างไร้ลมหายใจ ตำรวจพบศพอร อยู่ในพงหญ้าห่างจากปากซอยไม่ไกลนัก เสื้อนักศึกษาถูกกระชากขาด กระโปรงถลกขึ้นมา กางเกงชั้นในถูกทิ้งไว้ข้างตัว เธอถูกฆ่าข่มขืน หรือข่มขืนแล้วฆ่า ต่อมาเมื่อตำรวจจับฆาตกรได้ เป็นยามของหมู่บ้านที่เธอและครอบครัวอาศัยอยู่ มันสารภาพว่าเห็นอรเดินออกมาคนเดียว เลยเดินตามพอสบโอกาสเลยฉุดเข้าข้างทอง เหยื่อขัดขืนต่อสู่ เลยบีบคอจนขาดใจตาย ก่อนลงมือข่มขืน แล้วหนีกลับบ้านต่างจังหวัด
สรุปเธอถูกฆ่าแล้วข่มขืน

เปิ้ล พนักงานออฟฟิศ หน้าตาดี แต่งตัวทันสมัย วันเกิดเหตุเปิ้ลกับเพื่อน 2-3 คน เคลียร์งานอยู่จนดึก ระหว่างนั้นยามของบริษัทเดินเข้ามาถามว่าต้องปิดไฟและแอร์ในห้องที่ไม่มีพนักงานอยู่ เพื่อความประหยัดตามระเบียบของบริษัท มันออกอุบายให้ช่วยพาไป เพราะเพิ่งมาทำงานได้ไม่กี่วัน เปิ้ลตกหลุมพราง พาไป พอเข้าไปในห้องที่ลับตาคน มันชักมีดออกมาจี้ขู่จะฆ่า พร้อมกับใช้ผ้ามัดปากไม่ให้ส่งเสียงร้อง ใช้กุญแจมือล็อกข้อมือเธอ แล้วข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ก่อนจะเดินกลับไปยืนยามหน้าบริษัทตามเดิม เปิ้ลไม่กล้าแจ้งความ กล้วถูกฆ่า อีกอย่างเพราะอายเลยตกเป็นเหยื่อถูกมันข่มขู่ให้ร่วมหลับนอนด้วยอีกหลายครั้ง มิเช่นนั้นจะแฉเรื่องความสัมพันธ์ เธอต้องยอมตกนรกเรื่อยมา จนในที่สุดทนไม่ไหว ต้องลาออก หนีไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนยามชั่วต้องชดใช้กรรม เพราะมันก่อเหตุกับพนักงานสาวคนอื่นอีกและคิดว่าเหยื่อไม่กล้าแจ้งความเหมือนเดิม แต่ผิดคาด เจอคนจริง ตำรวจเลยลากคอเข้าคุก หมดโอกาสทำชั่ว อีกต่อไป
หลายปีที่ผ่านมานี้มีธุรกิจหนึ่งที่ฮิตมากโดยเฉพาะกับคนมีสีนั่นคือธุรกิจรักษาความปลอดภัยนั่นเอง
ที่ต้องบอกว่าเป็นคนมีสีนิยมทำก็เพราะต้องใช้ทักษะในการฝึกพนักงานให้มีระเบียบวินัยและแข็งแรง สอนเรื่องระเบียน ไหวพริบ อีกทั้งเรื่องการต่อสู้ป้องกันตัว แต่ยามบางคนกลับนำเอาความรู้เหล่านี้มาใช้เป็นประโยชน์ในการทำลายความปลอดภัยเสียเอง


ในช่วงแรก พนักงานที่เป็นยามส่วนหนึ่งมาจากทหาร หรือตำรวจที่ปลดประจำการ หรือออกจากราชการ อีกส่วนหนึ่งคือผู้ที่มาจากต่างจังหวัด มุ่งหน้าเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ บางบริษัทตัดราคากันมากมาย เลยเอาคนต่างด้าวพูดไม่ชัดมาเป็นยามก็มี โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
จากรุ่นแรกๆที่เข้ามาแค่ยืนเฉยๆ ดูความเรียบร้อยของสถานที่บ้างก็ได้เงินแล้ว แม้จะเดือนละไม่กี่พันบาท แต่ก็พออยู่ได้ แถมยังมีเครื่องแบบดูเท่ ยามทุกคนควรภูมิใจในเครื่องแบบของตัวเอง แม้จะเป็นยามแต่ก็มีศักดิ์ศรี และประกอบอาชีพสุจริต ยามดีๆมีเยอะ ยามที่เลวๆ ก็มีไม่น้อยอย่างที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น
เป็นเรื่องดีที่มียามรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ต่างๆ แต่ก็เป็นเหมือนดาบสองคมเหมือนกัน ยามจะดูแลสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมงบางคนทำตัวเป็นโจรซะเองงัดแงะเอาของมีค่าไป ยามหมู่บ้าน หรือยามหอพักที่เลวๆน่ากลัว ล้วนไม่ธรรมดา เริ่มต้นแต่ลักเล็กขโมยน้อยเปิดซองจดหมายของผู้เช่าเพื่อทราบความเคลื่อนไหว หรือขโมยสิ่งของที่ส่งมาทางพัสดุไปรษณีย์ บ้างก็อาศัยช่วงที่ช่วยเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์ แอบฟังคนคุยกัน บ้างก็หาโอกาสปั๊มกุญแจห้องไขเข้าไปขโมยของขณะที่เจ้าของห้องไม่อยู่
เคยมีข่าวยามขึ้นไปเคาะประตูห้องที่ผู้หญิงพักอยู่คนเดียวอ้างว่าเห็นคนปีนเข้ามาทางระเบียบ เมื่อเหยื่อเปิดให้ก็ใช้อาวุธจี้บังคับขืนใจแล้วเอาทรัพย์สินไป

ยามตามห้างสรรพสินค้าก็ต้องระวัง ทำตัวไม่ต่างจากโจร เคยมีข่าวเด็กขโมยของในห้าง ยามเอาตัวไปสอบสวน ทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์ แต่เด็กไม่รู้ เลยโดนรีดเงินอ้างเป็นค่าปรับ 10 เท่าของราคาสินค้า

วิธีป้องกัน

ต้องระวังตัวอยู่เสมอ อย่าไว้ใจยามจนเกินไปอย่าให้ยามเข้ามาในบ้านขณะที่เราอยู่คนเดียว หากยามมาเคาะประตูห้องพัก ควรพูดสอบถามโดยปิดประตูหรือใส่โซ่คล้องประตูไว้ แม้จะสื่อสารกันลำบากแต่ก็ดีกว่าเกิดเหตุร้าย อย่าให้กุญแจรถ กุญแจบ้านกับยามไว้ แค่กดลงบนดินน้ำมันแล้วเอาไปให้ช่างทำก็เสร็จแล้ว
หากอยู่คอนโดควรติดกระจกตาแมวที่ประตู เพื่อจะได้มองเห็นคนที่มาเคาะประตู และควรมีกลอน หรือห่วงโซ่คล้องประตูป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

สิ่งที่ควรระลึกอยู่เสมอก็คือ ไม่ควรไว้ใจใครแม้ว่าจะเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ส่วนบริษัทรักษาความปลอดภัยควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง
การรับคนเข้ามาทำงาน รปภ. ควรตรวจสอบประวัติให้ถี่ถ้วนมิฉะนั้นจะกลายเป็นการติดอาวุธให้มิจฉาชีพไปก่อกรรมกับผู้บริสุทธิ์ ระวังคุณอาจมีสามีเป็นบุคคลในเครื่องแบบ โดยประมาท “ยาม”

ที่มา : หนังสือภัยผู้หญิง