ภัยสถานที่ทำงาน

ที่ทำงานเป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งผู้หญิงควรระวังภัยคุณอาจถูกนายจ้าง หัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงานชายพูดจาแทะโลม ลวนลาม อนาจาร แตะเนื้อต้องตัว ที่ เรียกว่า “แต๊ะอั่ง” จนถึงขั้นข่มขืนรูปแบบของภัยที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ทำงานเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัครงาน สัมภาษณ์งาน และ ทำงาน ซึ่งคุณผู้หญิงที่ต้องอยู่กับหัวหน้างาน,ผู้จัดการ หรือเจ้าของบริษัทตามลำพังก็เป็นข้อที่ต้องพึงระวังเพื่อที่จะได้ไม่ต้องตกเป็น “เหยื่อ” ผู้หญิงที่ถูกลวนลามในที่ทำงานมากที่สุดคือแอร์โฮสเตส,เลขานุการ,นักศึกษาฝึกงาน, พนักงานออฟฟิศ, สาวเชียร์เบียร์,เด็กเสิร์ฟ รวมถึงพริตตี้ ฯลฯ แฮร์โฮสเตส บ่อยครั้งถูกลวนลามกลางอากาศ ขณะให้บริการอยู่บนเครื่องบิน เพราะผู้โดยสารมีร้อยพ่อพันแม่ ยิ่งพวกฝรั่งหัวแดงด้วยแล้ว พอเมาขึ้นมาก็คว้าดะ การอาศัยติดรถกลับบ้านกับเพื่อนต่างเพศในที่ทำงาน ก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นบ่อย ทั้งความสัมพันธ์ด้านชู้สาว และการถูกมองเป็นอย่างอื่นมากว่าติดรถกลับ อันตรายที่เกิดขึ้นระหว่างทางก็มีหลายอย่าง ทั้งถูกลวนลามในรถ ดีไม่ดีเลี้ยวเข้าโรงแรมไปข่มขืนกันเลยเมื่อเกิดเรื่องก็มักให้มันแล้วๆ ไป เพราะกลัวกระทบกับหน้าที่การงาน
เรื่องของผู้หญิงที่ถูกข่มเหงในที่ทำงานมีข่าวให้เห็นบ่อยครั้ง อย่างเช่น ข้าราชการสาวผู้หนึ่ง มีสามีแล้ว ยังถูกหัวหน้าข่มขืนในห้องน้ำที่ทำงาน เมื่อเรื่องแดงขึ้นมาแทนที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะเห็นอกเห็นใจ กลับเข้าข้างหัวหน้างานของเธอ เคราะห์ดีที่สามมีเข้าใจ และเป็นกำลังใจในการต่อสู่เรียกร้องความเป็นธรรม
เรื่องนี้จบอย่างไรไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ ผู้หญิงเสียหายไปแล้ว ด้วยตำแหน่งหน้าที่และความใกล้ชิดกันระหว่างเพื่อนร่วมงานทำให้ความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆเกิดขึ้น ภัยต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นจากผู้ชายในที่ทำงานตั้งแต่ระดับเสมียนพนักงาน ไปจนกระทั่งระดับผู้อำนวยการ หรืออธิการบดีก็มี บางคนทำตัวธรรมะธัมโม เป็นหัวหน้าหน่วยงานด้านศาสนาระดับชาติ แต่ชอบปลุกปล้ำข่มขืนลูกน้องสาวๆ ส่วนมาการลวนลามทางเพศเกิดจากผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าโดยในที่ทำงานจะเป็นในลักษณะหัวหน้ากระทำต่อลูกน้องผู้หญิง หรือ นายจ้างกับลูกจ้าง ใช้การพูดหยอกเอิน ทำท่าทางเกาะแกะ ส่อไปในทางลามก หรือชักชวนให้มีเพศสัมพันธ์ โดยเอาเรื่องของผลประโยชน์ เช่นการขึ้นเงินเดือนหรือเลื่อนตำแหน่งเข้าล่อ และมักคิดว่าลูกน้องผู้หญิงไม่กล้าตอบโต้ เพราะกลัวถูกกลั่นแกล้งในหน้าที่การงาน ลูกจ้าง หรือลูกน้องหญิงบางคร อาจถูกกอดจูบ ลูบคลำใช้อวัยวะบางส่วนของร่างกายสัมผัสอย่างจงใจ หากถูกข่มขืนก็อาจตกเป็นเมียน้อยในภาวะจำยอม ให้มีเรื่องซุบซิบนินทาของบรรดาขาเม้าท์ในที่ทำงาน แม้ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 16 กำหนดว่า “ห้ามมิให้นายจ้างผู้ซึ่งเป็นหัวหน้างาน ผู้ควบคุมงานหรือผู้ตรวจงาน กระทำการล่วงเกินทางเพศต่อลูกจ้างที่เป็นหญิงและเด็ก” ต่อกฏหมายนี้ก็ยังไม่มีบทลงโทษต่อผู้กระทำการลวนลามทางเพศ ทำให้คนเลวได้ใจ อีกอย่างการถูกข่มเหงทางเพศในที่ทำงาน มักเกิดในที่ลับตาคนทำให้ยากที่จะพิสูยต์ว่าการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เมื่อผู้หญิงออกมาเปิดเผยหรือแจ้งความจะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีหรืออาจมีพฤติกรรมเชิญชวนให้ถูกคุกคามทางเพศ หรือถูกมองว่าเป็นการแบล็กเมล์ ข่มขู่เรียกร้องค่าเสียหาย
ตัวอย่างที่น่าเห็นใจของผู้หญิงที่ถูกคุกคามทางเพศแล้วหาช่องทางเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้อยากลำบาก
กรณีแม่บ้านหญิงไทยเข้าแจ้งความอ้างว่าถูกท่านทูตประเทศหนึ่งกระทำอนาจาร แต่ตำรวจท้องที่ดำเนินการอะไรไม่ได้ โดยให้เหตุผลว่าทูตได้รับการคุ้มครองทางเอกสิทธิ และการคุ้มกันทางการทูต
แม่บ้านคนดังกล่าวจึงเข้าร้องเรียนต่อรัฐมนตรีผู้หนึ่งในสมัยนั้น มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาก็ประกาศว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริงแม้ว่าต่อมาจะมีผู้หญิงอีก 2 คนที่เคยทำงานกับทูตผู้นั้นเข้าแจ้งความว่าถูก “ท่านทูต”ทำอนาจารเช่นกัน อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา ผู้เสียหายทั้ง 3 คน ได้ขอถอนแจ้งความ ด้วยเหตุผลว่า การกระทำของพวกเธอจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นเธอทั้งหมดก็เป็นผู้สานสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยไม่เต็มใจ แต่ทั้งหมดยังยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง
เรื่องนี้เป็นอีกตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความยากลำบากในการจัดการปัญหาลวนลามทางเพศในที่ทำงาน
ผู้หญิงจึงควรหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ในที่ทำงานในยามวิกาล อย่างเช่น การทำงานล่วงเวลา การเดินทางไปต่างจังหวัด สองต่อสองกับเพื่อนร่วมงาน การไปงานเลี้ยงของบริษัทโดยลำพัง หลังเลิกงานก็อาจเป็นช่องทางให้คุณถูกลวนลามจากเจ้านายเพื่อนร่วมงาน โชคร้ายอาจถูกมอมยาพาไปข่มขืนได้ อย่าลืมว่าเหตุข่มขืนเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา เมื่อเกิดการคุกคาม เขามาเล่นด้วย แต่เราไม่ยอมตอบสนองคนที่เข้ามาหาก็จะล่อถอยไปเอง เรียกว่าตบมือข้างเดียวไม่ดัง ไม่ควรทำตัวหว่านเสน่ห์ไปทั่ว ไม่เช่นนั้นเวลาเกิดเรื่องอะไรจะมีแต่คนคอยสมน้ำหน้า บริษัทแห่งหนึ่ง “ห้องผู้จัดการ” เลขาฯ สาวสวยเดินเข้ามาพบผู้จัดการ เธอใส่กระโปรงสั้นจู๋ เสื้อรัดรูป ผู้จัดการชี้ไปที่เลขาฯ แล้วถามว่า
คุณจะขายอะไร?
หญิงสาวตอบว่า “ไม่”
“ถ้าไม่ขาย ก็ไม่ต้องโฆษณา” ผู้จัดการบอก
ในเมื่อเราไว้ใจใครไม่ได้ แต่คนที่เราไว้ใจได้ คือตัวเราเองควบคุมและป้องกันตนเอง ก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายขึ้น

สรุปว่าผู้หญิงที่ถูกคุมคามทางเพศในสถานที่ทำงานต้องรู้จักเอาตัวรอด คุณต้องแสดงให้ผู้ชายเห็นชัดเจนว่าคุณไม่เล่นด้วย ถ้ามีการเสนอค่าตอบแทน หรือผลประโยชน์ เพื่อแลกกับตัวคุณ ให้พูดออกไปตรงๆ เลยว่า ทางบ้านไม่เดือนร้อน หรือบอกไปว่า คุณมีสามีแล้ว ขู่อีกฝ่ายว่าจะเอาเรื่องไปบอกทางบ้านเขา หรือโทรไปบอกภรรยาของเขาจริงๆ เลยก็เป็นทางออกที่ดี
ส่วนมากเจอไม้นี้เข้าก็เริ่มฝ่อ เพราะพวกนี้กลัวเมียขึ้นสมอง
วิธีการป้องกันตัว เมื่อถูกลวนลามทางเพศในที่ทำงาน ควรป้องกันตัวด้วยการบอกกล่าว หากเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าก็ควรใช้การขอร้อง เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการงาน หากยังไม่เลิกก็ควรแจ้งไปยังศูนย์คุ้มครองแรงงาน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิสตรี เพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือแจ้งสื่อมวลชนเพื่อให้คนเหล่านี้ได้รับผลกระทบทางสังคมอีกทางหนึ่งด้วย
“อย่ายอมเป็นทาสทางอารมณ์ของเจ้านายหัวงู”

วิธีรับมือ

1. ไม่แต่งตัวยั่วยวน หรือแสดงกิริยาอาการ “อ่อย” ในสถานที่ทำงาน
2. ไม่สนทนาเรื่องทะเล้น ลามกกับเพื่อนร่วมงานชาย เพราะส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยการพูดคุยก่อน แล้วต่อเนื่องไปจนถึง “การล่วงละเมิดทางเพศ”
3. อย่าให้เพื่อนร่วมงานชายแตะเนื้อต้องตัว จนกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะหากเกิดเหตุการณ์ถูกลวนลามแล้ว เพื่อนร่วมงานทั่วไปจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผู้หญิงไป “ให้ท่า” ก่อน
4. หากถูกแตะเนื้อต้องตัว ควรต่อว่าผู้กระทำตามสมควร หากเกินเลยมากไป เช่น จับก้น หรือจับหน้าอก ควรแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ หรือแจ้งความต่อตำรวจ
5. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างจังหวัดกับเพื่อนร่วมงานชายสองต่อสอง
6. การจัดงานรื่นเริงของบริษัทพึงระวังการให้เพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายที่เป็นผู้ชายที่ไม่น่าไว้วางใจไปส่งที่บ้าน
7. หลีกเลี่ยงการอยู่สองต่อสองในที่ทำงานกับผู้ชายเพราะหากถูกลวนลามทางเพศจะไม่มีพยานหลักฐานในการแจ้งความต่อผู้ละเมิด
8. ถึงแม้จะไม่มีพยานแต่หากถูกลวนลามทางเพศจริงควรขอคำปรึกษาจากองค์การสตรีต่างๆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และการประณามให้สังคมลงโทษ
การเก็บหลักฐานต่างๆไว้เมื่อเกิดการคุกคามทางเพศ ถือเป็นสิ่งจำเป็น เช่น ข้อความทางโทรศัพท์ที่ส่งมาแทะโลม การเล่าให้กับคนที่ไว้ใจฟัง หรือการบันทึกวันเวลาที่เกิดการคุกคามต่างๆ ไว้จะเป็นประโยชน์เมื่อเกิดเรื่อง
ล่วงละเมิดการงาน พอให้อภัย ล่วงละเมิดกายใจ เป็นภัยที่น่ากลัว