ภัยรถตู้

รถตู้เป็นอีกทางเลือกของการสัญจร สะดวก รวดเร็ว แต่ความปลอดภัยแล้วแต่โชคชะตา
ภัยที่มากับรถตู้มี 2 แบบ

แบบแรก เป็นแก๊งรถตู้

ออกตระเวนล่าเหยื่อ “สาว” ปฏิบัติการเคลื่อนที่ออกหาเหยื่อทั่วไป หน้าสถานศึกษา ป้ายรถประจำทาง หน้าห้างสรรพสินค้า นี่คือ เป้าหมายหลักๆ

แบบที่ 2 รถตู้โดยสารประจำทาง

ฉวยโอกาสเล่นงานเหยื่อที่ใช้บริการ ขึ้นอยู่กับจังหวะ และสถานการณ์ เช่น มีโอกาสอยู่กับเหยื่อ 2 ต่อ 2
แต่บทสรุปสุดท้ายสำหรับหญิงสาวที่ตกเป็น “เหยื่อ” เลวร้ายเหมือนกัน

ตัวอย่างที่หนึ่งเกิดขึ้น

นักศึกษาสาว ถูกคนร้ายฉุดขึ้นรถตู้บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยใกล้กับอนุสาวรีย์บางเขน เธอเล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ขณะเดินออกมาจากสถาบัน ถูกหญิงวัยกลางคนกระชากขึ้นรถตู้ที่มีชายผิวดำและคนขับรออยู่บนรถขณะนั้นรู้สึกมึนงง ทำอะไรไม่ถูก ต่อมาถึงรู้ว่ารถวิ่ง ไปตามถนนสุขุมวิท มุ่งหน้า จ.ชลบุรี เธอถูกคนร้ายใช้ปืนจี้บังคับให้กรอกยาบ้าใส่ถุงให้พวกมันนำไปขาย อีกไม่กี่วันต่อมา คนร้ายใช้ผ้าผูกตาพาขึ้นรถตู้ไป จ.ภูเก็ตจับขังไว้ในบ้านริมทะเล แถมยังขู่ว่าจะพาไปขายซ่องในมาเลเซีย ด้วยความกลัวเธอเลยเสี่ยงวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือ เจอคนขี่มอเตอร์ไซค์ใจดีพาไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โชคยังดีที่หนีเสือมายังไม่ปะจระเข้ จึงขอความช่วยเหลือจากแม่บ้านในโรงแรม โทรศัพท์ไปบอกที่บ้าน แจ้งตำรวจกองปราบฯไปช่วยรับตัวกลับมา ใครจะเชื่อว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง แต่ก็เกิดขึ้นมาแล้ว หลังเกิดเหตุ นักศึกษาสาวคนนี้ยังหอบดอกไม้ไปขอบคุณ “ผู้การกองปราบฯ” ถึงที่ทำงาน อีกรายเกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี สาวโรงงาน อายุ 26 ปี แจ้งความว่าถูกโซเฟอร์รถตู้ใช้กำลังบังคบขืนใจถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกบนรถตู้อีกครั้งในโรงแรม เธอให้การว่า หลังจากสามีเสียชีวิตได้งานทำที่โรงงานแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯก่อนเกิดเรื่องร้ายได้ขอลาพักร้อนกลับมาช่วยแม่เกี่ยวข้าวที่บ้าน หลังช่วยงานเสร็จเธอก็ไปขึ้นรถตู้ที่คิวรถ เพื่อจะไปต่อรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ ตอนขึ้นรถตู้ มีผู้โดยสารแค่ 2 คน คือเธอกับผู้ชายอีกคน อายุราว 60 ปี หลังจากชายสูงอายุลงจากรถไปแล้วโซเฟอร์หื่นกามก็เริ่มออกลาย จอดระหว่างทางหลายครั้ง ทำเหมือนดึงเวลา พอสบช่องคนขับตัวแสบขับรถลงข้างทางเปลี่ยวแล้วเข้ามาบังคับขืนใจเธอในรถ 1 ครั้ง หลังจากเสร็จสมอารมณ์หื่น คนขับรถตู้ยังพูดจาข่มขู่พร้อมกับบังคับให้ดื่มนมอีก 1 กล่อง สักพักก็มีอาการหลับ ๆ ตื่น ๆ แต่ยังพอรู้ตัวว่าถูกพาเข้าโรงแรมข่มขืนอีกรอบ
ก่อนออกจากโรงแรมไอ้เดนนรก ยังล้วงเอาเงินสดในกระเป๋าพันกว่าบาท พร้อมโทรศัพท์มือถือของเธอติดมือไปด้วย เธอยังคงหมดสติหลับไป เพราะฤทธิ์ยาในนมกล่องนั้น วันต่อมาเธอไปตามตัวโซเฟอร์ใจชั่วที่คิดวร หวังจะได้พบตัวเพื่อพาตำรวจมาจับ แต่คำตอบที่ออกจากปากหัวหน้าคิวรถ ทำเอาอึ้งเพราะไอ้คนข่มขืนเธอเพิ่งมาขับรถได้ไม่กี่วัน หลักฐานเกี่ยวกับคนร้ายก็ไม่มี และได้หายตัวไปแล้ว เมื่อคุณเป็นผู้โดยสารที่อยู่ในรถตู้เพียงคนเดียว การป้องกันในขั้นต้นก็คือ ใช้โทรศัพท์มือถือโทรบอกคนทางบ้านว่าอยู่ที่ไหน และกำลังจะไปไหน หรือแม้กระทั้งทำทีเป็นคุยเกี่ยวกับคนรู้จักที่เป็นตำรวจ..อย่างนี้แล้วคนขับรถตู้ที่คิดว่าคุณกำลังจะเป็นเหยื่อจะเกิดความกลัวไม่กล้าทำ...เรื่องเลวร้าย

หน่อย..สาวออฟฟิศย่านสีลม เธอมีบ้านพักอยู่แถวมีนบุรี คืนวันหนึ่งเธอทำงานปิดงบบริษัทกว่าจะเสร็จงานก็สี่ทุ่มกว่า จึงได้มาขึ้นรถตู้โดยสารประจำทางที่วิ่งมารับผู้โดยสารตรงป้ายรถเมล์ เพื่อจะกลับถึงบ้านได้เร็วกว่ารถเมล์ที่เธอเคยนั่งทุกวันแต่..วันนี้เธอกลับบ้านทั้งน้ำตา เธอได้ที่นั่งเบาะด้านหลัง โดยมีผู้โดยสารนั่งร่วมทางประมาณ3-4 คน ด้วยความอ่อนเพลียเธอเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว และไม่รู้ว่าผู้โดยสารคนอื่นทยอยลงตามเส้นทางจนเหลือเธอกับคนขับรถตู้เท่านั้น เธอรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อรถตู้ดังกล่าวไปจอดอยู่ในซอยเปลี่ยวห่างไกลชุมชน คนขับล็อกประตูรถแล้วข่มขืนเธอภายในรถตู้นั้นเอง แล้วผลักเธอลงกลางซอยเปลี่ยว เคราะห์ดีที่เธอไม่พบกับภัยในซอยเปลี่ยวน้ำซ้ำอีก เธอจึงรีบพาตัวเองไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ต่อมาไม่นานตำรวจจึงจับคนขับรถตู้ดังกล่าวได้ คนร้ายสารภาพว่ากระทำแบบดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว โดยจะกระทำกับผู้หญิงที่เหลือนั่งอยู่ในรถคนสุดท้าย เมื่อไม่มีใครไปแจ้งความกับตำรวจ จึงย่ามใจ ผู้หญิงที่ใช้บริการรถตู้ ทุกคนควรมีอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ถูกกฎหมายไว้ในกระเป๋า เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ส่วนการป้องกันตัวจากแก๊งรถตู้ที่ออกตระเวนล่าเหยื่อ ให้ระวังเวลามีรถตู้โฉบเข้ามาใกล้ โดยเฉพาะในบริเวณที่เปลี่ยว เพราะเคยมีคนร้ายทำทีลงมาถามทาง แล้วกระชากเหยื่อขึ้นรถ จึงไม่ควรพูดคุยกับคนแปลกหน้า ยิ่งเด็กสาวๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ

โปรดระวัง! มีแก๊งรถตู้ไปดักอยู่หน้าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยคอยดักฉุดไปกักขัง ข่มขืน หรือส่งขายตัวที่ประเทศเพื่อนบ้าน

ภัยจากรถตู้เกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

ตอนกลางวัน
เหล่ามิจฉาชีพจะวางแผน แฝงตัวอยู่ในคิวรถตู้ ให้พวกขึ้นไปนั่งอยู่บนรถเกือบเต็มคัน โดยเว้นที่ว่างไว้ 1 หรือ 2 ที่ รอผู้หญิงขึ้นไปนั่ง เมื่อได้เหยื่อที่ต้องการแล้วจะออกรถ โปะยาสลบหรือบังคับข่มขู่พาไปปู้ยี่ปู้ยำ ที่นั่งที่ปลอดภัยที่สุด คือที่นั่งที่ลำบากที่สุดตรงทางขึ้นลง หากรักสบายนั่งหมกตัวอยู่ด้านในสุด หนทางที่จะหนีไปไหนก็ไม่มี จนมุมอยู่ในนั้นรอรับภัยอย่างเดียว

ส่วนตอนกลางคืนคนร้ายมักก่อเหตุอย่างอุกอาจ ฉุดกระชากลากเหยื่อ แบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย
หากเกิดเหตุขึ้นกับคุณ ให้ใช้สติ ใช้อาวุธ และจดจำรูปพรรณของคนร้าย หน้าตา ผิวพรรณ และส่วนสูง หาจุดที่สะดุดตามากที่สุดหมายเลขทะเบียน ยี่ห้อ สีของรถตู้ รวมทั้งจดจำบริเวณที่เกิดเหตุแล้วไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร็วที่สุด ประเด็นนี้อาจจะยากสำหรับเหยื่อที่ถูกมอมยา วิธีป้องกันตัวที่ดีที่สุดคืออย่าประมาท มีสติอยู่ตลอดเวลา

วิธีรับมือเมื่อต้องใช้บริการรถตู้

1. อย่าขึ้นรถคนแรก และอย่าลงคนสุดท้าย
2. ขึ้นรถตู้ที่จดทะเบียนกับทางราชการถูกต้องตามกฎหมาย
3. ควรนั่งเบาะที่ใกล้กับประตู หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถลงได้ง่าย
4. ควรมีอุปกรณ์ป้องกันตัวและโทรศัพท์มือถือติดตัวไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
5. หากรถแล่นออกนอกเส้นทาง หรือมีพิรุธให้รีบทักท้วงคนขับแล้วแจ้งให้หยุดรถในที่ปลอดภัย
6. หากอยู่กับคนขับรถเพียงสองคนและคนขับพยายามพาออกนอกเส้นทาง ให้เปิดกระจกตะโกนให้คนช่วย อย่ามัวตกใจหรืออาย เพราะหากไปถึงที่เปลี่ยวแล้วตะโกนอย่างไรก็ไม่มีใครได้ยิน
7. หากบอกให้คนขับหยุดรถแล้วยังไม่ยอมหยุด ต้องใช้วิธีการเด็ดขาดคือ “ชิงลงมือก่อน” โดยใช้อาวุธที่มีติดตัวอยู่ หรือสิ่งของที่หาได้จัดการกับคนร้ายในขณะที่กำลังขับอยู่ และต้องระวังรถเสียหลักพลิกคว่ำด้วยการเกาะส่วนที่แข็งแรงของรถไว้ให้ดี

โปรดท่องจำให้ขึ้นใจ อย่าขึ้นรถเป็นคนแรก อย่าลงเป็นคนสุดท้าย

ที่มา : หนังสือภัยผู้หญิง